เมนู

หายใจออก ว่า เราจักระงับจิตตสังขาร หายใจเข้า. สำเหนียกอยู่ ว่า เรา
จักเป็นผู้กำหนดรู้จิต หายใจออก ว่า เราจักเป็น ผู้กำหนดรู้จิต หายใจ
เข้า. สำเหนียกอยู่ว่า เราจักทำจิตให้ร่าเริง หายใจออก ว่า เราจัก
ทำจิตให้ร่าเริง หายใจเข้า. สำเหนียกอยู่ว่า เราจักตั้งจิตมั่น หายใจ
ออก ว่า เราจักตั้งจิตมั่น หายใจเข้า. สำเหนียกอยู่ ว่า เราจักเปลื้องจิต
หายใจออก ว่า เราจักเปลื้องจิต หายใจเข้า. สำเหนียกอยู่ ว่า เราจัก
เป็นผู้ตามพิจารณาความไม่เที่ยง หายใจออก ว่า เราจักเป็นผู้ตาม
พิจารณาความไม่เที่ยง หายใจเข้า. สำเหนียกอยู่ ว่า เราจักเป็นผู้ตาม
พิจารณาความคลายกำหนัด หายใจออก ว่า เราจักเป็นผู้ตามพิจารณา
ความคลายกำหนัด
หายใจเข้า. สำเหนียกอยู่ ว่า เราจักเป็นผู้ตาม
พิจารณาความดับกิเลส หายใจออก ว่า เราจักเป็นผู้ตามพิจารณาความ
ดับกิเลส
หายใจเข้า. สำเหนียกอยู่ว่า เราจักเป็นผู้ตามพิจารณา
สละคืนกิเลส
หายใจออก ว่า เราจักเป็นผู้ตามพิจารณาความสละคืน
กิเลส
หายใจเข้า. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติ ภิกษุเจริญแล้ว
อย่างนี้ ทำให้มากแล้วอย่างนี้แล จึงมีผลมากมีอานิสงส์มาก.

เจริญอานาปานสติอย่างไร ? สติปัฏฐาน 4 จึงจะบริบูรณ์



[289] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อานาปานสติที่ภิกษุเจริญแล้วอย่างไร
ทำให้มากแล้วอย่างไร จึงจะให้สติปัฏฐาน 4 บริบูรณ์ ?
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมัยใด เมื่อภิกษุหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่าหาย
ใจออกยาว หรือเมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่าหายใจเข้ายาว. เมื่อหายใจ
ออกสั้น ก็รู้ชัดว่าหายใจออกสั้น หรือเมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า
หายใจเข้าสั้น. สำเหนียกอยู่ว่า เราจักเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวงหายใจออก
ว่า เราจักเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวง หายใจเข้า. สำเหนียกอยู่ว่า